
เครื่องวัดความดันโลหิต
(Blood pressure Monitor)
เครื่องวัดความดันโลหิตเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้วัดและอ่านค่าความดัน เช่น ค่าความดันต่ำ ค่าความดันโลหิตสูง เป็นต้น เนื่องจากความดันเลือดเป็นตัวชี้วัดความสำคัญของสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด การมีเครื่องวัดความดันไว้ที่บ้านจึงช่วยให้
-
ติดตามความดันโลหิตได้อย่างสม่ำเสมอ โดยไม่ต้องไปโรงพยาบาลบ่อยครั้ง
-
ตรวจจับความผิดปกติของความดันโลหิตได้แต่เนิ่น ๆ
-
ช่วยในการประเมินประสิทธิภาพของการรักษาในผู้ป่วยความดันโลหิตสูง
-
สร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพของคุณและคนในครอบครัว
การเปรียบเทียบเครื่องวัดความดันแต่ละประเภท
เครื่องวัดความดันเลือดมีหลายประเภทขึ้นอยู่กับเกณฑ์ในการแยกประเภท หากใช้วิธีการใช้งานเป็นเกณฑ์ในการแยกประเภท สามารถแยกเครื่องวัดความดันโลหิตออกเป็น เครื่องวัดความดันแบบพกพา เครื่องวัดความดันแบบสอดแขน เครื่องวัดความดันต้นแขน ฯลฯ แต่ หลัก ๆ แล้วประเภทของเครื่องวัดความดันจะจำแนกออกโดยวิธีการทำงานของตัวเครื่อง ที่วัดความดัน แต่ละแบบมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน การเปรียบเทียบเครื่องวัดความดัน จะช่วยให้คุณเลือกที่วัดความดันที่เหมาะกับความต้องการได้ดียิ่งขึ้น
เครื่องวัดความดันดิจิตอล (Automatic Digital BP Monitor)
ข้อดี
-
ใช้งานง่าย โดยไม่ต้องอาศัยทักษะพิเศษ
-
สามารถใช้ได้ด้วยตนเองที่บ้าน ง่ายต่อการพกพา
-
แสดงค่าเป็นตัวเลขชัดเจน บางรุ่นสามารถบันทึกข้อมูลย้อนหลังได้
-
มีฟังก์ชันอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น การตรวจจับภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ
-
ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม ไม่มีสารปรอท
ข้อจำกัด
-
การวัดความดันมีความแม่นยำน้อยกว่าชนิดปรอท โดยเฉพาะในผู้ป่วยบางกลุ่ม
-
ต้องใช้แบตเตอรี่หรือไฟฟ้า
-
บางรุ่นอาจมีราคาสูง โดยเฉพาะรุ่นที่มีฟังก์ชันพิเศษ
-
อาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะหรือแขนใหญ่/เล็กผิดปกติ
-
ต้องการการสอบเทียบและตรวจสอบความแม่นยำเป็นระยะ
เหมาะสำหรับ
-
ผู้ป่วยที่ต้องวัดความดันด้วยตนเองที่บ้าน
-
ผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีข้อจำกัดในการได้ยิน
-
ผู้ที่ไม่มีทักษะในการวัดความดันแบบปรอทหรือแบบขดลวด
-
ผู้ที่ต้องการบันทึกค่าความดันโลหิตอย่างสม่ำเสมอเพื่อติดตามแนวโน้ม
เครื่องวัดความดันชนิดขดลวด (Aneroid Equipment)

ข้อดี
-
มีขนาดเล็กกว่าและพกพาสะดวกกว่าชนิดปรอท
-
ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมเนื่องจากไม่มีสารปรอท
-
ราคาถูกกว่าเครื่องวัดชนิดดิจิตอล
-
ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่
ข้อจำกัด
-
ต้องการการสอบเทียบบ่อยกว่าชนิดปรอท
-
ความแม่นยำอาจลดลงเมื่อใช้งานไปนาน หรือหากถูกกระแทก
-
ยังคงต้องอาศัยทักษะในการฟังเสียง *Korotkoff เช่นเดียวกับชนิดปรอท
-
หากไม่ได้รับการดูแลรักษาที่ดีอาจทำให้ค่าความด้นที่คลาดเคลื่อนได้
เหมาะสำหรับ
-
บุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องเคลื่อนย้ายไปให้บริการตามสถานที่ต่าง ๆ
-
สถานพยาบาลที่มีงบประมาณจำกัด
-
ผู้ที่ได้รับการฝึกอบรมวิธีการใช้งานและการฟังเสียงอย่างถูกต้อง
*Korotkoff หรือเสียง Korotkoff คือเสียงที่เกิดขึ้นเมื่อเลือดไหลผ่านหลอดเลือดแดงที่ถูกกดทับไว้บางส่วนระหว่างการวัดความดันโลหิต
เครื่องวัดความดันชนิดขดลวด (Aneroid Equipment)
ข้อดี
-
ผู้ป่วยที่ต้องวัดความดันด้วยตนเองที่บ้าน
-
ผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีข้อจำกัดในการได้ยิน
-
ผู้ที่ไม่มีทักษะในการวัดความดันแบบปรอทหรือแบบขดลวด
-
ผู้ที่ต้องการบันทึกค่าความดันโลหิตอย่างสม่ำเสมอเพื่อติดตามแนวโน้ม
ข้อจำกัด
-
ค่อนข้างหนัก ไม่สะดวกในการพกพา
-
ใช้งานยาก ต้องอาศัยทักษะและความชำนาญในการฟังเสียง*Korotkoff
-
มีสารปรอทซึ่งเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมหากมีการรั่วไหล
-
หลายประเทศเริ่มยกเลิกการใช้งานเนื่องจากความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม
เหมาะสำหรับ
-
สถานพยาบาลที่ต้องการความแม่นยำสูงสุด เช่น ห้องตรวจโรค
-
ใช้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานเพื่อเทียบความแม่นยำของเครื่องวัดชนิดอื่น
-
บุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับการฝึกอบรมเป็นอย่างดี
*Korotkoff หรือเสียง Korotkoff คือเสียงที่เกิดขึ้นเมื่อเลือดไหลผ่านหลอดเลือดแดงที่ถูกกดทับไว้บางส่วนระหว่างการวัดความดันโลหิต
เครื่องวัดความดัน Omron รุ่นไหนดี ?
OMRON เป็นบริษัทของญี่ปุ่นที่ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์อันเป็นมาตรฐานสากล ดังนั้นที่วัดความดัน Omron จึงเป็นแบรนด์ที่ได้รับความเชื่อถือในวงการเครื่องมือวัดความดันโลหิต ทั้งรุ่น HEM-1000 และรุ่น HBP-9030 แต่ละรุ่นมีจุดเด่นที่แตกต่างกันตามวัตถุประสงค์การใช้งาน ตารางเปรียบเทียบด้านล่างนี้จะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกรุ่นที่เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณของคุณได้อย่างมั่นใจ

Omron รุ่น HEM-1000
-
หลักการวัด Oscillometric method
-
อุโมงค์สอดแขน ขนาดรอบวงแขน 17-32 เซนติเมตร
-
ฟังก์ชัน
-
มีจอ LCD แสดงค่าความดันซิสโตลิก ไดแอสโตลิก และชีพจร
-
แสดงค่าเฉลี่ยสำหรับการอ่าน 3 ครั้งล่าสุดภายใน 10 นาที
-
สามารถบันทึกผลการวัดได้ 90 ค่า 2 ชุด ทำให้ติดตามผลลัพธ์ได้ง่าย
-
ไม่สามารถพิมพ์ผลลัพธ์ออกมาได้
-
-
เหมาะสำหรับ
-
ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงและต้องการติดตามผลอย่างใกล้ชิด
-
ผู้ที่มีขนาดแขนใหญ่
-
คลินิกและโรงพยาบาลขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่
-
ผู้สูงอายุ
-
Omron รุ่น HBP-9030
-
หลักการวัด Oscillometric method
-
อุโมงค์สอดแขน ขนาดรอบวงแขน 17-42 เซนติเมตร
-
ฟังก์ชัน
-
มีจอ LCD ขนาดใหญ่
-
มีสัญลักษณ์และข้อความแสดงสถานะการวัด เช่น การวางแขนที่ถูกต้อง
-
มีเสียงแนะนำขั้นตอนการวัดและเสียงแจ้งผลลัพธ์
-
สามารถพิมพ์ผลลัพธ์ พร้อมข้อมูลเพิ่มเติม เช่น ค่า MAP (Mean Arterial Pressure) และเวลาที่วัดได้
-
สามารถส่งข้อมูลการวัด โดยตรงผ่าน USB ได้
-
-
เหมาะสำหรับ
-
คลินิกและโรงพยาบาลขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่
-
ผู้ที่มีขนาดแขนใหญ่
-
เครื่องวัดความดันดิจิตอล ยี่ห้อไหนดี?
การเลือกยี่ห้อเครื่องวัดความดันแบบดิจิตอลที่เหมาะสมทั้งเรื่องของยี่ห้อ ราคา และจุดประสงค์การใช้งาน นับเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการที่จะทำให้ได้ที่วัดความดันคุณภาพเพื่อใช้วัด ตรวจ และอ่านค่าความดันที่เชื่อถือได้ ต่อไปนี้เป็นการเปรียบเทียบแต่ละยี่ห้อที่ ซิน ไบโอเทค แคร์ นำมาจำหน่าย
Omron รุ่น HBP-9030
-
หลักการวัด Oscillometric method
-
อุโมงค์สอดแขน ขนาดรอบวงแขน 17-42 เซนติเมตร
-
หน่วยความจำ เน้นการเชื่อมต่อและส่งข้อมูลไปยังระบบภายนอกผ่านทาง USB มากกว่าการเก็บข้อมูลในตัวเครื่อง
-
การแสดงผล พิมพ์ผลค่าวัดความดัน พร้อมข้อมูลเพิ่มเติม เช่น ค่า MAP (Mean Arterial Pressure) และเวลาที่วัดได้
-
ราคา 70,000.-

วิธีเลือกซื้อ เครื่องวัดความดันโลหิต ดิจิตอล
การเลือกซื้อเครื่องวัดความดันโลหิตดิจิทัลที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการดูแลสุขภาพของตนเองและบุคคลในครอบครัว เพราะเครื่องวัดความดันที่ได้มาตรฐานจะช่วยให้เราสามารถติดตามและตรวจสอบค่าความดันโลหิตได้อย่างแม่นยำ ทำให้ทราบถึงสถานะสุขภาพของตนเอง และสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตได้อย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันโรคความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของโรคหัวใจและหลอดเลือด
ในการเลือกซื้อเครื่องวัดความดันโลหิตดิจิทัล ควรพิจารณาปัจจัยสำคัญดังต่อไปนี้
-
ความแม่นยำในการวัด: เครื่องวัดความดันโลหิตที่เลือกซื้อควรได้รับการรับรองจากองค์กรที่น่าเชื่อถือ ซึ่งจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าเครื่องวัดมีความแม่นยำในการวัดค่าความดันโลหิต การอ่านค่าความดัน ที่ได้จากเครื่องมีความใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด โดยทั่วไปแล้ว เครื่องวัดความดันที่ได้รับรองมาตรฐานสากล เช่น CE หรือ FDA จะมีความน่าเชื่อถือสูง
-
ขนาดผ้าพันแขนที่เหมาะสม: ขนาดของผ้าพันแขนควรเหมาะสมกับขนาดรอบแขนของผู้ใช้ เพื่อให้ การวัดความดัน เป็นไปอย่างถูกต้องแม่นยำ หากผ้าพันแขนมีขนาดเล็กเกินไป อาจทำให้ค่าความดันโลหิตที่วัดได้สูงกว่าความเป็นจริง ในขณะที่ผ้าพันแขนที่มีขนาดใหญ่เกินไป อาจทำให้ค่าความดันโลหิตที่วัดได้ต่ำกว่าความเป็นจริง
-
หน้าจอแสดงผลที่ชัดเจน: หน้าจอแสดงผลควรมีขนาดใหญ่และแสดงตัวเลขที่ชัดเจน เพื่อให้ง่ายต่อการอ่านค่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้สูงอายุที่มีปัญหาด้านสายตา เครื่องวัดความดันที่ดี ควรแสดงผล ค่าความดันตัวบน ค่าความดันตัวล่าง และอัตราการเต้นของหัวใจอย่างครบถ้วน
-
ความสามารถในการเก็บบันทึกข้อมูล: หากต้องการติดตามค่าความดันโลหิตอย่างต่อเนื่อง ควรเลือกเครื่องวัดความดันที่มีความสามารถในการเก็บบันทึกข้อมูล ซึ่งจะช่วยให้สามารถเปรียบเทียบค่าความดันโลหิตในแต่ละครั้ง และติดตามแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของค่าความดันโลหิตได้
-
แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นาน: ควรเลือกเครื่องวัดความดันที่ใช้พลังงานน้อยและมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นาน เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานในทุกสถานที่
นอกจากนี้ การเลือกซื้อเครื่องวัดความดันจากแหล่งที่เชื่อถือได้และมีบริการหลังการขายที่ดี ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
การอ่านค่าบนเครื่องวัดความดัน
การอ่านค่าความดันโลหิตประกอบด้วยตัวเลขสำคัญ 2 ค่า
-
ค่าความดันตัวบน (Systolic Blood Pressure): ความดันขณะหัวใจบีบตัว
-
ค่าความดันตัวล่าง (Diastolic Blood Pressure): ความดันขณะหัวใจคลายตัว
หรือในบางครั้งการอ่านค่าความดันโลหิตอาจประกอบด้วยตัวเลข 3 ตัว คือ
-
ค่าความดันตัวบน (Systolic Blood Pressure)
-
ค่าความดันตัวล่าง (Diastolic Blood Pressure)
-
ชีพจรหรืออัตราการเต้นของหัวใจ (Pulse)

การแปลผลค่าความดันโลหิต
-
ความดันปกติ: น้อยกว่า 120/80 mmHg
-
ความดันเริ่มสูง: 120-139/80-89 mmHg
-
ความดันสูง: มากกว่า 140/90 mmHg
คำถามที่พบบ่อย
Q: ปัจจัยอะไรบ้างที่ส่งผลต่อค่าความดันโลหิต?
A: ปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความเครียด การออกกำลังกาย อาหาร ยา และการสูบบุหรี่ สามารถส่งผลต่อค่าความดันโลหิตได้
Q: ค่าความดันที่วัดได้แต่ละครั้งไม่เท่ากัน ผิดปกติหรือไม่?
A: ค่าความดันที่วัดได้ในแต่ละครั้ง อาจไม่เท่ากัน เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่มีผลต่อความดันโลหิตหากค่าวัดได้มีความแตกต่างกันมากในแต่ละครั้ง ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์
Q: ควรวัดความดันโลหิตบ่อยแค่ไหน?
A: ผู้ที่มีความดันโลหิตปกติ ควรวัดอย่างน้อยปีละครั้ง หรือผู้ที่มีความดันโลหิตสูง ควรวัดบ่อยขึ้น ตามคำแนะนำของแพทย์
Q: ควรวัดความดันโลหิตเวลาไหน?
A: ควรวัดความดันโลหิตในขณะที่ร่างกายผ่อนคลาย หลีกเลี่ยงการวัดหลังจากออกกำลังกาย รับประทานอาหาร หรือดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน และควรวัดในเวลาเดิมทุกวัน เพื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์ได้
Q: สามารถสั่งซื้อเครื่องวัดความดัน ได้ที่ไหน?
A: หากสนใจสอบถาม หรือดำเนินการสั่งซื้อเครื่องวัดความดัน ผ่านช่องทางไลน์ @synbiotech
โรคที่เกี่ยวข้องกับความดัน
ค่าความดันโลหิตที่ผิดปกติ สามารถนำไปสู่ปัญหาสุขภาพและโรคต่าง ๆ ได้ดังนี้
-
โรคหัวใจและหลอดเลือด
ความดันโลหิตสูงทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้น และอาจนำไปสู่ภาวะหัวใจโต หัวใจวาย และโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
-
โรคไตเรื้อรัง
ความดันโลหิตสูงทำลายหลอดเลือดในไต ทำให้ไตทำงานลดลง และอาจนำไปสู่โรคไตเรื้อรัง
-
โรคหลอดเลือดสมอง
ความดันโลหิตสูงเพิ่มความเสี่ยงของหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน (แบบประเมินความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง)
-
โรคจอประสาทตาเสื่อม
ความดันโลหิตสูงทำลายหลอดเลือดในจอประสาทตา ทำให้การมองเห็นลดลง หรือตาบอดได้
-
ภาวะหัวใจล้มเหลว
ความดันโลหิตสูงที่เป็นต่อเนื่อ งเวลานาน ทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวได้
-
โรคความดันโลหิตสูง
โรคความดันโลหิตสูงเป็นภัยเงียบที่อันตราย เพราะผู้ป่วยมักไม่แสดงอาการในระยะแรก อาการความดันสูงที่พบได้
-
ปวดศีรษะ โดยเฉพาะบริเวณท้ายทอย
-
เวียนศีรษะ
-
ตาพร่ามัว
-
เหนื่อยง่าย
-
ใจสั่น
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง
-
พันธุกรรม
-
อายุที่มากขึ้น
-
น้ำหนักเกิน
-
การสูบบุหรี่
-
การดื่มแอลกอฮอล์
-
ความเครียด
-
การรับประทานอาหารรสเค็ม

วิธีป้องกันโรคที่เกี่ยวเนื่องกับความดันโลหิต
การป้องกันโรคเกี่ยวกับความดันโลหิตและภาวะแทรกซ้อนทำได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน
1. ควบคุมอาหาร
-
ลดการบริโภคโซเดียมในอาหาร
-
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี และโปรตีนไร้มัน
-
ลดการบริโภคไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์
2. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
-
ออกกำลังกายแบบแอโรบิกอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ หรือ 75 นาทีต่อสัปดาห์ สำหรับการออกกำลังกายแบบหนัก
-
เลือกกิจกรรมที่คุณชอบ เพื่อให้สามารถทำได้อย่างต่อเนื่อง
3. รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
-
การลดน้ำหนักแม้เพียงเล็กน้อย สามารถช่วยลดความดันโลหิตได้
-
ปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ เพื่อกำหนดเป้าหมายน้ำหนักที่เหมาะสม
4. งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
-
การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญต่อความดันโลหิตสูง
-
การเลิกสูบบุหรี่และลดการดื่มแอลกอฮอล์ จะช่วยลดความเสี่ยงได้
5. จัดการความเครียด
-
ความเครียดสามารถส่งผลต่อความดันโลหิตได้
-
หาวิธีจัดการความเครียดที่เหมาะสม เช่น การทำสมาธิ โยคะ หรือกิจกรรมที่ผ่อนคลาย
สรุป
เครื่องวัดความดันโลหิตเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญในการดูแลสุขภาพ การเลือกใช้ที่วัดความดันที่เหมาะสมและการตรวจวัดอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณสามารถติดตามสุขภาพของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันโรคร้ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับค่าความดันที่ผิดปกติ เช่น โรคความดันโลหิตสู ง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้น นอกจากนี้ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้เหมาะสมยังเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันโรคความดันโลหิตสูงและภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ อย่าลืมว่า การดูแลสุขภาพที่ดีที่สุดคือการป้องกันก่อนที่โรคจะเกิดขึ้นกับตัวท่านเองค่ะ