top of page

เครื่อง CPAP คืออะไร


เครื่อง CPAP Ventmed DS-6

เครื่อง “CPAP (Continuous Positive Airway Pressure)”  เป็นวิธีการรักษาอาการนอนกรนที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งเป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในการบรรเทาอาการนอนกรน ในปัจจุบัน ช่วยแก้ไขปัญหาเพื่อปรับปรุงคุณภาพการนอนให้ดีขึ้น ซึ่งการนอนกรนทำให้เสี่ยงต่อการหยุดหายใจชั่วขณะนอนหลับได้ ทำให้ร่างกายไม่ได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ และอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ทำให้เกิดโรคอื่นๆ ตามมาด้วย เช่น โรคหัวใจ และโรคเบาหวาน


ในบทความนี้จะช่วยแนะนำวิธีการใช้งานของเครื่อง CPAP อย่างถูกต้อง เพื่อช่วยให้คุณทำการใช้ CPAP ได้อย่างมั่นใจและถูกต้อง



เครื่อง CPAP Ventmed DS-6 รักษาอาการนอนกรน

การทำงานเครื่อง CPAP แบบอัตโนมัติ
โดยปกติเครื่อง CPAP แบบอัตโนมัติ จะปรับแรงดันสูงขึ้นค่อนข้างเร็วเมื่อ detect เจอภาวะหยุดหายใจ แต่เมื่อผู้ใช้กลับมาหายใจเป็นปกติแล้วเครื่องจะไม่ลดแรงดันลมทันที แต่จะคอยดูให้แน่ใจว่าผู้ใช้หายใจเป็นปกติแล้วในช่วงระยะเวลาหนึ่ง จึงค่อยๆปรับแรงดันลม ทั้งนี้เพื่อให้แรงดันเสมอและไม่ขึ้นๆลงๆมากเกินไป ในเครื่อง CPAP มีความพิเศษคือสามารถปรับตั้งค่าให้เหมาะสมกับผู้ใช้งานแต่ละคนได้ละเอียดมากกว่า คือ
สามารถตั้งค่าแรงดันได้ 3 ระดับ ยกตัวอย่างเช่น
ตั้งค่าแรงดันเริ่มต้นที่ 4  cmH2O ค่าแรงดันสูงสุดที่ 12  cmH2O และค่าแรงดันรักษา (Treatment Pressure) ที่ 8 cmH2O เป็นต้น เครื่องจะวิ่งอยู่ที่แรงดันระหว่าง 4-8 cmH2O เป็นหลัก จะวิ่งเกิน 8 cmH2O ต่อเมื่อจำเป็นจริงๆเท่านั้น และเมื่อแรงดันวิ่งอยู่ระหว่าง 8-12 cmH2O จะอยู่ไม่นานเมื่อผู้ใช้หายใจเป็นปกติก็จะลดแรงดันลงอย่างรวดเร็ว มากกว่าตอนที่แรงดันอยู่ระหว่าง 4-8 cmH2O
สามารถตั้งความไวในการ detect ภาวะหยุดหายใจได้ (Sensitivity) ถ้าเราตั้งความไวให้มากขึ้น แรงดันก็จะตอบสนองกับการเปลี่ยนแปลงของการหายใจเราเร็วขึ้น

เครื่อง CPAP Ventmed DS-6 รักษาอาการนอนกรน

เราควรตรวจ Sleep Test ก่อนหรือไม่
เนื่องจาก เครื่อง CPAP จัดเป็นเครื่องมือแพทย์ ควรไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคจากการนอนหลับโดยเฉพาะ (Sleep Specialist) ซึ่งกรณีส่วนใหญ่ แพทย์จะส่งต่อให้ท่านไปทำการตรวจ Sleep test ก่อน ทั้งนี้เพื่อเหตุผลสำคัญดังนั้นจะได้ข้อมูลต่างๆ ในการวิเคราะห์ และวินิจฉัย เพื่อแนะนำวิธีรักษาที่เหมาะสมกับท่านเพื่อหาระดับอาการก่อนการรักษาใช้เป็นตัววัดความคืบหน้าของการรักษา 

ตรวจ Sleep test ที่ไหนดี
การตรวจการนอนหลับสามารถตรวจได้ทั้งที่โรงพยาบาล และ ศูนย์ตรวจการนอนหลับ โดยเราจะต้องไปนอนตรวจตอนกลางคืนที่สถานที่นั้นๆ (ยกเว้นแต่ผู้ที่ติดนิสัยนอนตอนกลางวัน เช่น คนที่ทำงานตอนกลางคืน จะสามารถตรวจตอนกลางวันได้)
ผลที่ได้จากการตรวจจะได้รับการแปลผลและให้คำปรึกษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับว่าเรามีภาวะหยุดหายใจขณะหลับหรือไม่ และมีความรุนแรงระดับไหน สามารถใช้ค่าที่ได้จากการตรวจในการวางแผนการรักษาและติดตามการรักษา เช่น ใช้ในการปรับแรงดันลมของ เครื่อง CPAP เป็นต้น
โรงพยาบาลของรัฐ สามารถติดต่อได้ที่โรงพยาบาลขนาดใหญ่ทั่วไป ได้ ราคาประมาณ 9,000 – 10,000 บาท หากเป็นข้าราชการ ข้าราชการบำนาญ และรัฐวิสาหกิจ สามารถเบิกค่าตรวจตาม กรมบัญชีกลางได้ 7,000 บาท ส่วนสิทธิประกันสังคมสามารถเบิก ได้ตามสิทธิ์ที่โรงพยาบาลที่เราทำประกันตน
โรงพยาบาลเอกชน ราคาจะสูงกว่าโรงพยาบาลรัฐ แต่สะดวก ไม่ต้องรอคิวนาน ราคาประมาณ 12,000 – 25,000 บาท
ศูนย์ตรวจการนอนหลับ ตรวจโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับ โดยเฉพาะ ไม่ต้องรอคิวนาน ราคาประมาณ 9,900 – 12,000 บาท


เครื่อง CPAP Ventmed DS-6 รักษาอาการนอนกรน

เงื่อนไขในการรับสิทธิ์ของประกันสังคม
ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และมาตรา 39 จะได้รับสิทธิจ่ายเงินสมทบไม่น้อยกว่า 3 เดือนภายในเวลา 15 เดือนก่อนวันรับบริหารทางการแพทย์ 
ผู้ประกันตนตามมาตรา 38 และมตรา 41 จะได้รับสิทธฺเมื่อจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือน ภายในเวลา 15 เดือนก่อนวันรับบริหารทางการแพทย์ และได้สิทธิรับสิทธิคุ้มครองภายใน 6 เดือน ตั้งแต่วันที่สิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน
          การตรวจการนอนหลับยังสามารถตรวจที่บ้านได้ เรียกว่า home sleep test การตรวจนี้เหมาะสำหรับผู้ที่เคลื่อนไหวร่างกายหรือเดินทางได้ลำบาก หรือในผู้ที่ไม่อยากนอนตรวจในสถานที่ที่ไม่คุ้นชิน    การตรวจ sleep test จะมีการตรวจวัดค่าที่น้อยลง โดยมีจุดประสงค์ เพื่อตรวจคัดกรองภาวะหยุดหายใจขณะหลับเป็นหลักจึงไม่สามารถวินิจฉัยความผิดปกติของการนอนหลับชนิดอื่นๆได้
อ้างอิง


เครื่อง CPAP Ventmed DS-6 รักษาอาการนอนกรน

ข้อดีของการใช้ CPAP ในระยะยาว
เพื่อลดความเสี่ยงจากโรคต่างๆ ที่อาจเกิดจากภาวะหยุดหายใจขณะหลับได้อีกด้วย เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น โดยหากท่านติดตามดูแลการรักษากับแพทย์อย่างใกล้ชิด จะมีความเสี่ยงในการรักษาน้อยมาก




การเลือกหน้ากาก CPAP ที่เหมาะสม
ควรหน้ากากให้เหมาะกับรูปใบหน้าและสรีระ เราจะมีโอกาสเลือกชนิดของหน้ากากให้เข้าได้กับรูปใบหน้าหรือท่านอนได้ เพื่อให้ใส่หน้ากากนอนได้สบายและลมไม่รั่วออกจากหน้ากากขณะนอนหลับ การเลือกหน้ากาก CPAP เหมาะสมเป็นขั้นตอนที่สำคัญเพื่อให้การใช้ CPAP มีประสิทธิภาพและสะดวกสบายที่สุด 

ประเภทของหน้ากากหลักๆ มี 3 รูปแบบ 
  •  หน้ากากแบบครอบทั้งปากและจมูก (Full Face Mask) เหมาะสำหรับผู้ที่หายใจทางปากหรือมีปัญหาในการหายใจทางจมูก.

  • หน้ากากจมูก (Nasal Mask) ใช้งานง่ายที่สุด และไม่ค่อยเกิดลมรั่ว

  • หน้ากากแบบสอดจมูก (Pillow Mask )  ข้อดีคือหน้ากากแบบนี้จะมีความรู้สึกสบายในการใช้งานมากที่สุด อึดอัดน้อยที่สุด เนื่องจากไม่มีส่วนที่กดทับกับใบหน้าของเราหรือมีน้อยมาก ส่วนข้อเสียคือมักเกิดลมรั่วได้ง่าย โดยเฉพาะที่แรงดันลมสูงๆ และบางท่านอาจรู้สึกระคายเคืองบริเวณปลายรูจมูก



เครื่อง CPAP Ventmed DS-6 รักษาอาการนอนกรน

การดูแลและทำความสะอาดเครื่อง CPAP
1. หน้ากาก ทำความสะอาดด้วยน้ำสบู่อ่อนๆ แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า ตากไว้ให้แห้งในที่ร่ม ที่มีอากาศถ่าย-เทสะดวก ควรทำ ทุกๆวัน  ห้ามเช็ดด้วยแอลกอฮอล์ ห้ามตากแดด 
2. ท่ออากาศ ถอดท่อออกจากหน้ากากและตัวเครื่อง ทำความสะอาดด้วยน้ำสบู่อ่อนๆ ทั้งข้างในและข้างนอกแล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า แขวนตากโดยให้ปลายท่อทั้งสองข้างห้อยลง ตากไว้ให้แห้งในที่ร่ม ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ควรทำ ทุกๆ 2 สัปดาห์  ห้ามเช็ดด้วยแอลกอฮอล์ ห้ามตากแดด 
3. เครื่อง CPAP  ต้องปิดเครื่องให้ลมหยุดก่อนทุกครั้ง ถอดปลั๊กไฟออกทุกครั้ง และใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเปล่า เช็ดรอบๆ ด้านนอกตัวเครื่อง แล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดอีกที ควรทำทุก 1 เดือน ห้ามใช้น้ำร้อน และห้ามตากแดด
4.กระบอกน้ำเครื่องทำความชื้น  เทน้ำที่เหลือทิ้งทุกเช้า ใช้ผ้าแห้งเช็ด และผึ่งไว้ในที่ร่ม ถ้ามีคราบตะกรัน แนะนำให้ล้างด้วยน้ำยาล้างขวดนม แล้วขัดด้วยฟองน้ำนิ่มๆ น้ำที่ใช้เติม ควรทำทุกๆ วัน
ไม่แนะนำ: น้ำเกลือ, น้ำแร่, น้ำประปา
แนะนำ: น้ำต้ม, น้ำดื่มขวด, Sterile water
ห้ามล้างด้วยแอลกอฮอล์หรือน้ำร้อน และห้ามตากแดด
5.แผ่นกรองอากาศ เป็นแบบใช้แล้วทิ้ง (Disposable) ไม่สามารถล้างทำความสะอาดได้ ต้องเปลี่ยนแผ่นใหม่เท่านั้น ควรเปลี่ยนทุก 1-2 เดือน


เครื่อง CPAP Ventmed DS-6 รักษาอาการนอนกรน

การใช้งานเครื่อง CPAP ให้ถูกวิธี
1. วางอุปกรณ์บนพื้นผิวระดับเดียวกัน 
2. เสียบขั้วต่อสายไฟที่ด้านหลังของอุปกรณ์ เชื่อมต่อปลายสายไฟด้านหนึ่งเข้ากับชุดจ่ายไฟ และปลายอีกด้านหนึ่งเสียบเข้ากับเต้ารับไฟฟ้า 
3. เชื่อมต่อท่ออากาศเข้ากับช่องระบายอากาศที่อยู่ด้านหลังอุปกรณ์อย่างแน่นหนา 
4. เปิดฝาแท้งค์เก็บน้ำแล้วเติมน้ำจนถึงเครื่องหมายระดับน้ำสูงสุด อย่าเติมน้ำร้อนลงในแท้งค์เก็บน้ำ 
5. ปิดฝาแท้งค์เก็บน้ำให้สนิท 
6. เชื่อมต่อปลายท่ออากาศด้านที่ว่างเข้ากับหน้ากากอย่างแน่นหนา โปรดอ่านคู่มือสำหรับผู้ใช้โดยละเอียด 
7. ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้งานเพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์สามารถให้ผู้ป่วยได้ ควรกำหนดการตั้งค่าความดันในการรักษาสำหรับผู้ป่วยเป็นรายบุคคลด้วยการกำหนดค่าอุปกรณ์ที่จะใช้ รวมถึงอุปกรณ์เสริม และควรประเมินการตั้งค่าของการบำบัดอีกครั้งเป็นระยะเพื่อประสิทธิผลในการใช้งาน 
8. ไม่คลุมหรือวางอุปกรณ์ในลักษณะที่ส่งผลเสียต่อการทำงานหรือประสิทธิภาพของอุปกรณ์

สรุป
การนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับ เป็นภาวะที่ไม่ควรมองข้าม เพราะจะส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวและในปัจจุบันนอนกรนเป็นเรื่องที่รักษาได้ง่ายมากด้วยการใส่ CPAP หากใครที่รู้ว่าตนเองหรือคนใกล้ตัวนอนกรน แนะนำให้รีบมาตรวจการนอนหลับ (sleep test) เพื่อวางแผนการรักษา นอกจากเราได้สุขภาพการนอนที่ดีกลับมากแล้ว ยังทำให้มีจิตใจแจ่มใสสติปัญญาเฉียบแหลม ไม่มีโรคเบาหวาน ความดันถามหา และได้ชีวิตครอบครัวที่หวานชื่นกลับมาอีกด้วย 

อ้างอิง




Comments


bottom of page